ซิลิโคนจมูก

รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ “ซิลิโคนจมูก” เพื่อการเสริมจมูกให้ได้ทรงสวย และปลอดภัย!

“ซิลิโคนจมูก” เป็นวัสดุสำคัญที่ใช้ในการเสริมจมูกที่ขาดไม่ได้เลย มีให้เลือกหลายรูปแบบ จากผู้ผลิตหลายประเทศ เพื่อให้คุณสามารถเลือกซิลิโคนเสริมจมูกที่เหมาะสมกับตัวเอง ในบทความนี้ RB Clinic จะพาไปทำความรู้จักกับซิลิโคนเสริมจมูกว่าทำมาจากอะไร มีกี่แบบ และควรเลือกแบบไหนดี จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย!

ซิลิโคนจมูก ทำมาจากอะไร?

ซิลิโคนจมูกทำมาจากพลาสติกสังเคราะห์ที่มีความบริสุทธิ์สูง มีทั้งแบบสำเร็จรูป และแบบแท่ง โดยแพทย์จะนำมาเหลาและปรับแต่งรูปทรงให้เข้ากับทรงจมูกของแต่ละบุคคล แล้วนำมาใช้เสริมจมูกให้โด่งขึ้น เป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยสูงมาก มีโอกาสเสี่ยงต่อการแพ้ได้น้อย สามารถอยู่ในร่างกายได้หลายปี โดยที่ไม่ทำให้เกิดอันตรายในระยะยาว

ซิลิโคนคาง

แล้วควรเลือกใช้ซิลิโคนจมูกแบบไหนดี?

การเลือกซิลิโคนจมูกแบบไหนดีให้เข้ากับรูปหน้าของตัวเองและมีความปลอดภัยนั้น จะต้องพิจารณา 3 ปัจจัยหลัก ๆ ได้แก่ เกรดของซิลิโคน แหล่งผลิต และรูปแบบของซิลิโคนเสริมจมูก มีรายละเอียดดังนี้

ซิลิโคนจมูก

1. เกรดของซิลิโคน

เกรดของซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าหากเลือกใช้เกรดซิลิโคนทั่วไปก็สามารถทำให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้ โดยซิลิโคนที่สามารถนำมาใช้เสริมจมูกได้ จะมีอยู่ 2 เกรด ได้แก่

  • เกรดปลูกฝังในร่างกาย (Implant grade) จะมีความบริสุทธิ์สูงสุด สามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต

เกรดทางการแพทย์ (Medical grade) มีความบริสุทธิ์น้อยกว่าเกรดปลูกฝังในร่างกาย สามารถอยู่ได้นานหลายปี แต่ยังไม่มีการทดสอบพิษสะสมในระยะยาว

2. แหล่งผลิตของซิลิโคนจมูก

ในปัจจุบันมีการผลิตซิลิโคนจมูกจากหลายประเทศ แต่ในไทยจะนิยมใช้ซิลิโคนเสริมจมูกจาก 3 ประเทศหลัก ๆ ได้แก่ อเมริกา เกาหลี และญี่ปุ่น มีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้

2.1. เสริมจมูกซิลิโคนอเมริกา (USA Silicone)

เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษที่มีความบริสุทธิ์สูง เนื้อซิลิโคนจะมีสีใส มีให้เลือกหลายแบบ เช่น

  • USA Standard มีความยืดหยุ่นและความนิ่มน้อยที่สุด เหมาะกับคนที่มีเนื้อสันจมูกเยอะ
  • USA Premium มีความยืดหยุ่นและความนิ่มปานกลาง เหมาะกับคนที่มีเนื้อสันจมูกไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

USA Premium นิ่มพิเศษ จะเหมาะกับคนที่มีเนื้อสันจมูกน้อย เนื้อจมูกบาง สามารถช่วยลดความเสี่ยงในซิลิโคนทะลุได้เป็นอย่างดี

2.2. เสริมจมูกซิลิโคนเกาหลี (Korea Silicone)

เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ มีสีขาว จะมีจุดเด่นตรงที่มีความยืดหยุ่นสูง  โคนจมูกและปลายจมูกมีความนิ่มมาก เหมาะกับคนที่มีเนื้อสันจมูกน้อย

2.3. เสริมจมูกซิลิโคนญี่ปุ่น (Japan Silicone)

เป็นซิลิโคนมาตรฐานธรรมดา มีสีเหลือง มีความแข็งปานกลาง และมีราคาไม่แพง เมื่อเปรียบเทียบกับซิลิโคนอเมริกา และซิลิโคนเกาหลี

3. รูปแบบของซิลิโคนจมูก

รูปแบบของซิลิโคนจมูกจะแบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ ซิลิโคนเสริมจมูกแบบสำเร็จรูป และซิลิโคนเสริมจมูกแบบแท่ง ซึ่งทั้งสองแบบจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

3.1 ซิลิโคนจมูกแบบสำเร็จรูป

ซิลิโคนเสริมจมูกแบบสำเร็จรูป จะมีการทำรูปทรงมาให้อยู่แล้วจากผู้ผลิต ทำให้ได้รูปทรงที่แน่นอน มีโอกาสเบี้ยว หรือเอียงน้อย แต่แพทย์จะสามารถเหลาปรับแต่งรูปทรงได้เล็กน้อยเท่านั้น อาจทำให้ไม่เหมาะสำหรับทุกคน ยกตัวอย่างเช่น 

  • ซิลิโคนแมนทิส (Mantis Silicone) นิยมเรียกว่า “ซิลิโคนทรงตั๊กแตน” เป็นซิลิโคนสำเร็จรูปที่เป็น Implant grade จะมีปีกทั้งสองข้างสำหรับครอบสันจมูกไว้ ช่วยลดปัญหาจมูกเบี้ยว เอียง ทะลุได้ดี มีขอบแกนบาง และปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย
  • ซิลิโคนบาร์บี้ (Barbie Silicone) จะมีสันจมูกที่ค่อนข้างกว้าง และสโลปลงมา แต่ปลายจะไม่โด่ง หรือพุ่งมาก เหมาะสำหรับคนที่มีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว ต้องการเพิ่มความโด่งของสันจมูกขึ้นเล็กน้อย
  • ซิลิโคนบราว (Brown Silicone) ซิลิโคนจะมีเนื้อสีออกน้ำตาลตามชื่อทรงเลย โดยจมีความโด่งคล้ายแมนทิส แต่สันจมูกจะสโลปคล้ายบาร์บี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อสันจมูกน้อย แต่ต้องการเสริมจมูกให้โด่งขึ้น

ซิลิโคนซินเดอเรลล่า (Cinderella Silicone) จะมีรูปทรงคล้ายทรงบาร์บี้ แต่ตรงฐานซิลิโคนสันจมูกจะค่อนข้างหนา เหมาะสำหรับคนที่มีโครงสร้างจมูกแบนราบ

3.2. ซิลิโคนจมูกแบบเหลาเอง

ซิลิโคนเสริมจมูกแบบเหลาเอง จะมีลักษณะเป็นแท่ง โดยที่แพทย์จะต้องนำมาเหลาขึ้นรูปเอง จะมีข้อดีตรงที่สามารถปรับแต่งให้เข้ากับจมูกได้ทุกรูปหน้า แต่จะต้องทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญการและประสบการณ์มาก เพราะถ้าแพทย์เหลาซิลิโคนได้ไม่ดี ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้จมูกเบี้ยวได้
ซิลิโคนจมูกแบบเหลาเองนั้น จะมีให้เลือกอยู่ 4 ชนิดหลัก ๆ ตามความอ่อน – แข็งของซิลิโคน ได้แก่ แข็ง (Hard) แข็งปานกลาง (Medium) นุ่ม (Soft) และนุ่มมาก (Ultra Soft) ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้เลือกชนิดซิลิโคนเสริมจมูกที่เหมาะสมกับแต่ละคนเอง

ซิลิโคนจมูกอยู่ได้กี่ปี?

ซิลิโคนจมูกเกรดทางการแพทย์ (Medical grade) สามารถอยู่ได้ประมาณ 10 ปี แต่ถ้าไม่ได้มีผลข้างเคียงที่เกิดจากการเสริมจมูกได้ไม่ดีพอ เช่น จมูกเบี้ยว จมูกบาง หรือจมูกทะลุ หรือไม่ได้อยากแก้ทรงจมูกใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องถอดออกแต่อย่างใด ในขณะที่ซิลิโคนจมูกเกรดปลูกฝังทางการแพทย์ (Implant Grade) จะสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต

เราสามารถถอดซิลิโคนจมูกออกได้ไหม?

ผู้ที่เสริมจมูกแล้วต้องการถอดซิลิโคนเสริมจมูกออก สามารถไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการถอดซิลิโคนออกได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณเสริมจมูกด้วยเทคนิคที่ต้องมีการตะไบฮัมพ์ หรือตอกกระดูก เมื่อถอดซิลิโคนจมูกออกแล้ว จะทำให้จมูกไม่กลับไปเป็นทรงเดิม และอาจเกิดรอยบุ๋ม หรือทำให้จมูกผิดรูปได้ ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อน

ซิลิโคนจมูกไหลทำอย่างไรดี?

ซิลิโคนจมูกไหล เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ในผู้ที่เสริมจมูก โดยจะมีลักษณะซิลิโคนไม่แนบติดกับจมูก มีการลอย หรือไม่ตรงกับสันจมูก สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • มีการบิดจมูกบ่อย ๆ 
  • ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
  • เหลาซิลิโคนไม่พอดีกับแกนจมูก
  • ไม่ได้วางซิลิโคนให้ครอบแกนจมูก
  • ไม่ได้วางซิลิโคนไว้ใต้เยื่อหุ้มกระดูก 
  • ทำช่องใส่ซิลิโคนกว้าง หรือแคบจนเกินไป

ผู้ที่มีปัญหาซิลิโคนจมูกไหล หากซิลิโคนไม่ได้แหลม หรือทิ่มออกมาทางปลายจมูกก็ยังไม่จำเป็นต้องแก้ไขทันที แต่ถ้ารู้สึกไม่มั่นใจ หรือมีความเสี่ยงที่ซิลิโคนจมูกทะลุ ก็สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการแก้ไขได้เลย โดยแพทย์จะทำการถอดซิลิโคนเสริมจมูกอันเก่าออก แล้วทำการเสริมจมูกให้ใหม่

สรุปเรื่องการเลือกซิลิโคนจมูก

3 ปัจจัยในการเลือกซิลิโคนจมูกที่เรานำมาแนะนำนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ต้องศึกษาเท่านั้น ยังมีอีกหลายสิ่งที่จะต้องศึกษาให้ดี เช่น ความเชี่ยวชาญของแพทย์ มาตรฐานของคลินิกศัลยกรรมเสริมความงาม เทคนิคการเสริมจมูกที่ต้องทำเป็นเสริมจมูกทั่วไป หรือเสริมจมูก Semi – Open จำเป็นที่จะต้องตะไบฮัมพ์ ตัดปีกจมูก หรือรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนหลังใบหูไหม เป็นต้น

สำหรับใครที่อยากทราบรายละเอียดที่ชัดเจน สามารถส่งรูปมาให้คุณหมอประเมินได้แล้ว คุณหมอของเราพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด วางแผนการรักษาแบบตัวต่อตัว เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ผู้เข้ารับการเสริมจมูกที่ RB Clinic จะได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด

ติดต่อนัดหมาย RB Clinic ได้เลยที่​ :