การศัลยกรรมตัดปากกระจับ เป็นการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเทรนด์ทรงปากกระจับกำลังมาแรงในปัจจุบัน เป็นรูปทรงปากที่เข้ากับรูปหน้าของคนเอเชียมาก เมื่อทำออกมาแล้วจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า ทำให้มีใบหน้าที่สดใสชวนมอง
อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าการทำศัลยกรรม ก็ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ก่อนที่จะทำศัลยกรรมปากกระจับจึงควรศึกษาข้อมูลที่สำคัญให้ดีเสียก่อน เพื่อที่จะได้ผ่าตัดอย่างปลอดภัย ได้ผลลัพธ์สวยงาม ปากกระจับเป็นธรรมชาติ ในบทความนี้ RB Clinic ได้รวม 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนทำศัลยกรรมปากกระจับมาให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ผลเสียของการทำปากกระจับไม่ถูกวิธี ตัดริมฝีปากมากเกินไป ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ข้อห้ามของการทำปากกระจับ และวิธีดูแลตนเอง หลังทำปากกระจับ ใครที่กำลังจะทำปากกระจับ ห้ามพลาดข้อมูลที่เรานำมาฝากเลย!
รวม 5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำศัลยกรรมปากกระจับ
1. ผลเสียของการทำปากกระจับไม่ถูกวิธี ตัดริมฝีปากมากเกินไป
แม้ว่าการทำปากกระจับจะเป็นการผ่าตัดเล็กที่มีความปลอดภัยสูง และใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน แต่ก็จะต้องตัดปากกระจับอย่างพอดี และทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็อาจทำให้เกิดผลเสียตามมาได้
โดยผลเสียของการทำปากกระจับไม่ถูกวิธี ตัดริมฝีปากมากเกินไป มีดังนี้
- ริมฝีปากสองด้านไม่เท่ากัน ยิ้มแล้วดูปากเบี้ยว
- ริมฝีปากแข็ง ยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ
- เกิดแผลเป็น หรือพังผืดบริเวณริมฝีปากที่ตัดมากกว่าปกติ
- ปิดปากไม่สนิท มองเห็นเหงือกตลอดเวลา
- ตัดปากกระจับแล้วอ้าปากไม่ได้เท่าเดิม
2. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำปากกระจับ
นอกจากผลเสียของการทำปากกระจับไม่ถูกวิธีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรศึกษาไม่แพ้กันก็คือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากทำปากกระจับ เพื่อที่จะได้สังเกตอาการและดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม ดังนี้
- อาการบวมหลังผ่าตัด เป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ และจะหายได้เองภายใน 7 – 10 วัน อย่างไรก็ตาม หากมีอาการบวมช้ำมากกว่า 10 วันขึ้นไป แสดงว่าเป็นอาการผิดปกติ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- แผลฉีกหลังทำปากกระจับ เกิดจากการอ้าปากกว้างมากเกินไปหลังทำปากกระจับใหม่ ๆ โดยที่แผลจากการผ่าตัดยังไม่สมานกันดี
- ปากกระจับคลายตัวหลังการผ่าตัด เป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยจะคลายมากคลายน้อยก็ขึ้นอยู่กับเนื้อปากของแต่ละคน โดยคนมีเนื้อปากแน่น ผิวริมฝีปากเรียบเนียน ไม่เหี่ยวย่นจะคลายน้อย ส่วนคนที่มีเนื้อปากนุ่ม ย้วย เหี่ยว ดูไม่แน่น หรือ มีผิวหนังริมฝีปากย่น จะมีการคลายตัวของทรงปากมากกว่า
- อาจมีรอยแผลเป็นนูนบริเวณแผลผ่าตัด โดยเฉพาะคนที่มีประวัติแผลเป็นคีลอยด์
- อาจเกิดถุงน้ำในช่องปาก หรือต่อมน้ำลายอุดตัน (Mucocele) ซึ่งมีโอกาสพบได้น้อยมาก
3. ข้อห้ามของการทำปากกระจับ
แม้ว่าการทำศัลยกรรมปากกระจับจะเป็นการผ่าตัดเล็กภายใต้การฉีดยาชา และมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ไม่ควรทำปากกระจับกับบุคคลที่มีภาวะต่อไปนี้ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกหยุดยาก
- ผู้ที่มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษแบบยังไม่มีการกินยาควบคุมอาการ
- ผู้ที่มีภาวะปากอักเสบรุนแรง เพราะจะทำให้ผ่าตัดได้ยากขึ้น และอาจต้องผ่าตัดซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
- ผู้ที่กำลังรักษาสุขภาพภายในช่องปาก เช่น ดัดฟัน เหงือกอักเสบ หรือเพิ่งผ่าฟันคุด ควรรักษาให้หายดีก่อนทำปากกระจับ เพราะจะมีความเสี่ยงในการเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อได้ง่าย
- ผู้ที่มีสภาพจิตใจไม่มั่นคง หรือไม่อยู่กับความเป็นจริง คาดหวังผลลัพธ์ที่มากเกินไป
4. อาหารที่ควรรับประทาน และไม่ควรรับประทานหลังทำปากกระจับ
อาหารที่ควรรับประทานหลังทำปากกระจับ เพราะจะช่วยให้แผลฟื้นตัวได้ไว มีดังนี้
- อาหารจำพวกโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ หรือถั่วต่าง ๆ เพราะจะช่วยให้แผลผ่าตัดสมานกันได้เร็วขึ้น
- อาหารจำพวกไขมันดี เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก หรืองา เพราะจะช่วยให้ประสานการทำงานกับโปรตีน ทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวและเยื่อหุ้มผิวใหม่ได้เร็วขึ้น
- ผักและผลไม้ต่าง ๆ โดยเฉพาะ ใบบัวบัก ฟักทอง หรือธัญพืช เพราะจะช่วยลดอาการบวมช้ำหลังผ่าตัดได้ดี
อาหารที่ไม่ควรรับประทานหลังผ่าตัด เพราะอาจเสี่ยงให้เกิดแผลอักเสบได้ มีดังนี้
- อาหารรสจัด เช่น แกงเผ็ด หรือแกงปักษ์ใต้ต่าง ๆ
- อาหารหมักดอง หรือมีส่วนผสมของหมักดอง เช่น ส้มตำปูปลาร้า กะปิ น้ำพริก มะม่วงดอง
- อาหารประเภทอาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมไปถึงควรงดสูบบุหรี่ด้วย
5. วิธีดูแลตนเองหลังทำปากกระจับ
วิธีดูแลหลังทำปากกระจับ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คุณควรศึกษาให้ดีก่อนที่จะทำปากกระจับ เพื่อที่หลังจากทำปากกระจับแล้ว จะได้ดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้แผลฟื้นตัวได้ไวขึ้น และลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ดังนี้
- ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- บ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร และควรแปรงฟันเบา ๆ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด
- ในช่วง 3 วันแรก ควรประคบเย็นบริเวณริมฝีปากบ่อย ๆ โดยอาจใช้น้ำแข็งห่อด้วยผ้าสะอาด หรือใช้เจลเย็นก็ได้ เพื่อช่วยห้ามเลือดหลังการผ่าตัดและลดอาการบวม
- ในช่วง 1 – 2 เดือนแรกหลังตัดไหม ให้เริ่มออกกำลังกายริมฝีปาก ด้วยการ เม้มปาก ทำปากจู๋ และ นวดปาก ตามความเหมาะสม รวมถึงสามารถเริ่มต้นอ้าปากกว้าง ๆ ได้ด้วย แต่ควรค่อย ๆ ทำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลฉีกขาด
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดทาปากด้วยลิปมัน วาสลีน ลิปสติก ขี้ผึ้ง หรือครีมบำรุงฝีปากทุกชนิด
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก หากมีอาการปากแห้ง สามารถใช้คัตเตอร์บัตชุบน้ำเกลือทาบริเวณริมฝีปากชั่วคราว หรือทายา Terramycin เพื่อช่วยให้ปากไม่แห้ง และลดการติดเชื้อที่ริมฝีปากได้
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบหรี่ อย่างน้อย 1 เดือนหลังผ่าตัด
- หลังตัดไหม ควรนวดปากบ่อย ๆ เพื่อให้ทรงกระจับอยู่ได้นานขึ้น และลดการเป็นไตหลังผ่าตัด
แนะนำวิธีทำศัลยกรรมปากกระจับอย่างปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่ดูสวย เป็นธรรมชาติ
จะเห็นได้ว่า ผลเสียของการทำปากกระจับไม่ถูกวิธี ตัดริมฝีปากมากเกินไป ค่อนข้างอันตรายและแก้ไขในภายหลังได้ยาก เนื่องจากเป็นการตัดเนื้อออกไปแล้ว ดังนั้นเพื่อการทำปากกระจับที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ จึงควรเลือกทำกับคลินิกศัลยกรรมปากกระจับที่ได้มาตรฐาน สะอาด และจะต้องทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำปากกระจับเท่านั้น โดยอาจประเมินเบื้องต้นได้จากจำนวนเคสรีวิวทำปากกระจับก็ได้
สรุปเรื่องที่ควรรู้ก่อนคิดจะทำปากกระจับ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องที่รู้ก่อนคิดจะทำปากกระจับที่เรานำมาแนะนำในบทความนี้ มีครบทั้งผลเสียของการทำปากกระจับไม่ถูกวิธี ตัดริมฝีปากมากเกินไป ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากทำปากกระจับ ข้อห้ามของการทำปากกระจับ รวมไปถึงวิธีดูแลตนเองอย่างเหมาะสม หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจการทำปากกระจับมากขึ้น และสามารถดูแลตนเองหลังทำปากกระจับได้อย่างเหมาะสม และไม่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
สำหรับใครที่สนใจทำปากกระจับ สามารถส่งรูปมาให้คุณหมอประเมินฟรี หรือนัดหมายผ่านทุกช่องทางการติดต่อของเราได้เลย คุณหมอของเรามีความเชี่ยวชาญในการทำปากกระจับอย่างมาก การันตีด้วยประสบการณ์ทำปากกระจับมากกว่า 5,000 เคส ที่สำคัญเรายังทำเทคนิคยกมุมปากเพิ่มให้ฟรี เพื่อที่จะได้มีรูปทรงริมฝีปากที่สวยงาม ชวนมอง ครบจบในครั้งเดียว รับรองได้เลยว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน!
- Hotline : 063-912–2190
- Line Official : @rbclinic
- Facebook : RB Clinic
- Instagram : rbclinic.th
TikTok : rbclinic.th